“เมื่อด้ายคนละเส้น กลายเป็นผืนผ้าผืนใหญ่”
สร้างทีมให้เหนียวแน่น ด้วยพลังของงานคราฟต์ (Craft-based learning)
วันนี้เราขอชวนคุณมอง “งานฝีมือ” ในมุมใหม่—ในฐานะ กิจกรรม Team Building ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ทำไมงานคราฟต์ ถึงเหมาะกับการสร้างทีม?
งานคราฟต์ไม่ใช่แค่เรื่องศิลปะ แต่มันคือ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่ให้คนได้เป็นตัวเอง เรียนรู้กัน และสร้างบางสิ่งร่วมกัน
- เป็นกิจกรรมที่ไม่มีใครเก่งหรือแย่กว่าใคร
ทุกคนเริ่มจากศูนย์ ไม่มี “คนเก่งกว่า” หรือ “มีประสบการณ์มากกว่า”
สิ่งนี้ทำให้เกิด “ความเท่าเทียม” และลดอีโก้ภายในทีม - เน้น “การลงมือทำร่วมกัน” มากกว่าแค่พูดคุย
ไม่ต้องใช้สคริปต์ ไม่ต้องออกความคิดเห็นต่อหน้าใคร
แค่ใช้มือ ค่อยๆ สร้างผลงานชิ้นเล็กๆ ไปด้วยกัน ก็สร้างความผูกพันได้มากกว่าการประชุมหลายชั่วโมง - เหมาะกับทุกคน ทุกวัย ทุกเพศ ทุกระดับ
งานคราฟต์สามารถดัดแปลงให้เหมาะกับวัฒนธรรมองค์กรและกลุ่มคนได้อย่างหลากหลาย เช่น ทำผ้ามัดย้อม ทำเทียน ทำถุงผ้า หรือ DIY สมุดโน้ต
เชื่อมโยงกับทฤษฎี Tuckman: งานคราฟต์ช่วยให้ทีม "เติบโต" อย่างไร?
ตามทฤษฎีของ Bruce Tuckman ทีมทุกทีมจะผ่าน 4 ขั้นตอนหลัก:
- Forming – เริ่มรู้จักกัน→ งานคราฟต์ช่วยละลายพฤติกรรม ให้คนกล้าเปิดเผย
- Storming – เริ่มมีความเห็นต่าง→ เวิร์กชอปทำให้ความขัดแย้งเป็นเรื่องสร้างสรรค์ เช่น เลือกสี/ไอเดียร่วมกัน
- Norming – เริ่มยอมรับกัน→ ทีมเห็นบทบาทของแต่ละคนในผลงาน
- Performing – ทำงานร่วมกันได้ดี→ งานคราฟต์ระดับสูง เช่น งานประกวด ทำให้ทีมรวมพลังอย่างเต็มที่
งานคราฟต์...สำหรับทุกวัตถุประสงค์
|
วัตถุประสงค์ |
ตัวอย่างกิจกรรมคราฟต์ |
|
สร้างความไว้วางใจ |
เพนต์ผ้าผืนเดียวร่วมกัน |
|
กระตุ้นการสื่อสาร |
ออกแบบแพ็คเกจร่วมกัน |
|
พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ |
ประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุรีไซเคิล |
|
เชื่อมสัมพันธ์ทีมต่างแผนก |
ประกวด “ของขวัญคราฟต์จากใจ” |
งานคราฟต์คือสะพานที่เชื่อมคนที่แตกต่าง ให้มาร่วมมือกันในรูปแบบที่ไม่ต้องแข่ง ไม่ต้องเร่ง และไม่ต้องพิสูจน์อะไร
เราที่ RYD ออกแบบกิจกรรม Craft & Connection ที่ใช้แนวคิด Tuckman ผสานศิลปะ การสื่อสาร และระบบความสัมพันธ์ในทีม
มากกว่าแค่ผลงานสวยๆ – แต่มันคือทีมที่เข้าใจกันจากภายใน




