บทบาทของ Team-Building ในการแก้ปัญหาระดับองค์กร: เมื่อพลังของทีมสร้างทางออกที่ยั่งยืน

หลายคนอาจมองว่ากิจกรรม Team-building เป็นเพียงการละลายพฤติกรรม สร้างความสนุกสนาน หรือเป็นเพียง "กิจกรรมนอกสถานที่" ที่ให้พนักงานได้พักผ่อนจากงานประจำ แต่รู้หรือไม่ว่า Team-building ที่ออกแบบอย่างมีกลยุทธ์สามารถเป็นเครื่องมือทรงพลังในการแก้ปัญหาระดับองค์กร

งานวิจัยจาก McKinsey ชี้ให้เห็นว่า องค์กรที่มีการจัดกิจกรรม Team-building ข้ามแผนกอย่างสม่ำเสมอ สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้มากกว่าองค์กรทั่วไปถึง 1.5 เท่า ตัวเลขนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของการสร้างวัฒนธรรมการแก้ปัญหาที่ทรงพลังผ่านกิจกรรม Team-building ที่มีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าทำไม Team-building จึงเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาระดับองค์กร และจะสร้างวัฒนธรรมการแก้ปัญหาผ่าน Team-building ได้อย่างไร

เมื่อ 1+1 มากกว่า 2 : พลังของ Collective Intelligence

"ปัญหาซับซ้อนต้องการมุมมองที่หลากหลาย" คำกล่าวนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วในงานวิจัยเรื่อง "Teams Solving Problems Together: The Synergistic Effect of Team Building" ที่พบว่ากิจกรรม Team building ที่มีประสิทธิภาพสามารถเพิ่มความสามารถในการแก้ปัญหาร่วมกันได้ถึง 20% และลดเวลาในการแก้ปัญหาซับซ้อนลงได้ถึง 30% 

แนวคิด Collective Intelligence หรือ "ปัญญาร่วม" คือสิ่งที่ช่วยให้ทีมสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่าคนเพียงคนเดียว งานวิจัยจาก Scott Page แห่งมหาวิทยาลัย Michigan แสดงให้เห็นว่า ทีมที่มีความหลากหลายทั้งทางความคิด ประสบการณ์ และทักษะมักจะแก้ปัญหาซับซ้อนได้ดีกว่าทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีพื้นฐานคล้ายกัน

ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Google กับ Project Aristotle ซึ่งศึกษาว่าปัจจัยใดทำให้ทีมมีประสิทธิภาพสูงสุด พบว่า Psychological Safety หรือ "ความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ" คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำให้ทีมสามารถแก้ปัญหาซับซ้อนได้

กิจกรรม Team-Building ที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา

กิจกรรม "Yes, And..." (15-20 นาที)

มีจุดมุ่งหมายเพื่อ ฝึกฝนการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และ กระตุ้นการสื่อสารที่ไม่ปิดกั้นความคิด โดยให้สมาชิกทีมฝึก ต่อยอดไอเดียของกันและกัน โดยไม่ปฏิเสธหรือทำให้ผู้อื่นหมดกำลังใจในการแสดงความคิดเห็น

เป้าหมายของกิจกรรม

  1. กระตุ้นให้ทีมเปิดกว้างในการรับไอเดียใหม่ๆ
  2. ลดพฤติกรรมปิดกั้นทางความคิด (Idea Blocking)
  3. ฝึกให้ทีมเรียนรู้การฟังเชิงรุก (Active Listening) และการต่อยอดไอเดียร่วมกัน
  4. เสริมสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่ไม่ปฏิเสธทันที แต่ช่วยกันพัฒนาแนวคิดให้ดียิ่งขึ้น

วิธีเล่น

  • แบ่งพนักงานออกเป็น กลุ่มละ 4-6 คน
  • แต่ละกลุ่มจะต้องสร้างเรื่องราวหรือไอเดียใหม่ๆ โดยใช้หลักการ "Yes, And"
Facilitator เลือกหัวข้อหนึ่งให้ทีม เช่น
  • "ถ้าเราจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าของเรา..."
  • "ถ้าบริษัทเราจะจัดกิจกรรม Team Building ที่แปลกใหม่..."
  • "ถ้าเราต้องหาวิธีทำให้พนักงานทุกคนมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น..."
สมาชิกคนแรกเริ่มต้นไอเดียด้วยประโยค เช่น
  • “เราน่าจะจัด Team Building บนเรือสำราญ”
สมาชิกคนถัดไปต้องพูดว่า "Yes, And..." แล้วต่อยอดไอเดีย เช่น
  • “Yes, And... เราสามารถเชิญวิทยากรพิเศษมาเพื่อสอนเรื่องความเป็นผู้นำ”
กระบวนการนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ โดยสมาชิกทุกคนต้องต่อยอดไอเดียของกันและกัน

ตัวอย่าง:
          A: "เราควรพัฒนาระบบให้สามารถให้ Feedback ได้ง่ายขึ้น"
          B: "Yes, And เราสามารถเพิ่มฟีเจอร์ให้พนักงานให้คะแนนความคิดเห็นได้"
          C: "Yes, And ถ้าเราทำให้เป็นแบบ Gamification ก็จะทำให้สนุกขึ้น"

กฎสำคัญของเกม :
  1. ห้ามใช้คำว่า "No" หรือ "But"
  2. ทุกคนต้องช่วยกันต่อยอดไอเดีย แม้ว่ามันจะดูแปลกใหม่ก็ตาม
  3. ฟังให้จบก่อนที่จะคิดหาคำตอบของตัวเอง

สรุปผล

หลักการ "Yes, And" สามารถช่วย กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และ ลดความกลัวในการแสดงความคิดเห็น ทีมที่ใช้หลักการนี้ในการประชุม จะมีไอเดียที่หลากหลายขึ้น และ สามารถหาทางแก้ปัญหาได้ดีขึ้น องค์กรที่มีวัฒนธรรมแบบ "Yes, And" จะเป็นองค์กรที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ง่ายขึ้น

ความถี่ในการทำกิจกรรม
  • ควรใช้กิจกรรม "Yes, And" เป็นประจำในที่ประชุม Brainstorming หรือ Team Meetings
  • สามารถใช้ใน Workshop ด้านการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ หรือ ปัญหาที่ต้องการแก้ไขร่วมกัน

ดังนั้นกิจกรรม Team-Building ไม่ใช่เพียงแค่การเสริมสร้างความสามัคคีเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือที่มีพลังในการสร้างวัฒนธรรมการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในองค์กร ตัวอย่างจาก Google, Toyota ชี้ให้เห็นว่า การออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ทีมมองปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาแนวทางแก้ไข และสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

การนำแนวทาง Team-Building ไปใช้ในองค์กรไม่ควรเป็นเพียงกิจกรรมที่จัดขึ้นปีละครั้ง แต่ควรถูกบูรณาการให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร การสร้าง Psychological Safety, การสนับสนุน Cross-Functional Collaboration และการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมผ่านการทำงานเป็นทีม คือแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและสามารถรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนได้ในอนาคต หากองค์กรของคุณยังไม่ได้ลงทุนใน Team-Building อย่างจริงจัง นี่อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้น!
Share this Post:

Related Posts: