บางครั้งสิ่งที่ทำให้ทีม “ห่างกัน” ไม่ใช่ความเห็นที่ต่าง แต่คือ “ใจที่รีบตัดสิน” ก่อนจะพยายามเข้าใจ เพราะในทุกความคิดที่ไม่เหมือนกัน มักมีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่เสมอ
เมื่อเรายอมชะลอการตัดสิน เพื่อฟังและมองให้ลึกกว่านั้น เราจะพบว่าทุกคนล้วนมีเจตนาที่ดีในแบบของตัวเอง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทีมที่ไม่ได้แค่ เห็นต่างได้ แต่ยังเข้าใจกันได้อย่างแท้จริง
เข้าใจกัน ไม่จำเป็นต้องเห็นเหมือนกันทุกเรื่อง
ในทีมที่มีคนหลากหลาย ความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการเห็นตรงกัน คือ “การเข้าใจกัน” เพราะเราสามารถไม่เห็นด้วยได้ โดยยังเคารพในมุมมองของอีกฝ่าย
การเข้าใจคือการเปิดใจรับรู้ว่า ทุกคนต่างมีเหตุผลและประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งหล่อหลอมให้แต่ละคนมองโลกไม่เหมือนกัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ทีมของเรามีมุมมองรอบด้านมากขึ้น
อย่ารีบตัดสิน เพราะทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง
เรามักเห็นเพียง “ผลลัพธ์” ของการกระทำ แต่ไม่เคยรู้ “เหตุผล” ที่อยู่เบื้องหลัง การรีบตัดสินจึงทำให้เราเข้าใจผิดได้ง่าย
ในทีมที่ดี เราให้โอกาสกันได้อธิบาย ให้พื้นที่ในการพูด และเลือกที่จะเข้าใจก่อนสรุปผลใด ๆ เพราะบางครั้ง การฟังเพียงนิดเดียว ก็ช่วยให้เราเห็นหัวใจของอีกคนได้มากขึ้น
เมื่อเราเลือกเข้าใจมากกว่าโต้แย้ง ทีมจะใกล้กันขึ้น
ทีมที่ดีไม่ได้วัดกันที่ใครเสียงดังกว่า หรือใครถูกกว่า แต่คือทีมที่ “พูดได้ ฟังเป็น และเข้าใจซึ่งกันและกัน”
ในหลายครั้ง เวลาที่เกิดความเห็นไม่ตรงกัน คนมักรีบอธิบายเพื่อ “ปกป้องมุมมองของตัวเอง” มากกว่าจะ “พยายามเข้าใจอีกฝ่าย” แต่การโต้แย้งไม่จำเป็นต้องเป็นการต่อสู้เสมอไป มันสามารถเป็น “บทสนทนาเพื่อเข้าใจ” ได้ หากเราฟังอย่างเปิดใจ
ตัวอย่างเช่น: เมื่อมีคนเสนอไอเดียที่ต่างจากแนวทางเดิมของทีม แทนที่จะรีบบอกว่า “แบบนี้ทำไม่ได้”
ลองถามกลับว่า: “อะไรทำให้คุณคิดว่าแนวทางนี้จะช่วยทีมได้” หรือ “ถ้าเราลองปรับให้เข้ากับบริบทนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง”
เพียงเปลี่ยนจาก “การโต้แย้ง” เป็น “การตั้งคำถามอย่างเข้าใจ” บทสนทนาจะเปลี่ยนจากการปะทะ เป็นการแลกเปลี่ยน และทีมจะเริ่มรู้สึกว่า “ทุกเสียงมีพื้นที่ และทุกความเห็นมีคุณค่า” เพราะในความเป็นจริง เบื้องหลังความเห็นที่แตกต่าง มักมี “ความตั้งใจดี” ที่เหมือนกัน ความต่างจะไม่กลายเป็นกำแพง แต่จะกลายเป็นสะพานที่เชื่อมทีมให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม
ทีมที่เข้าใจกัน คือทีมที่เชื่อใจกันได้
ความเข้าใจคือรากฐานของความไว้วางใจ และเมื่อมีความไว้วางใจ ทีมก็จะกล้าพูด กล้าคิด และกล้าทำโดยไม่กลัวถูกตัดสิน
นี่คือหัวใจของ Inclusion ในแนวคิด DEI การสร้างบรรยากาศที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัยที่จะเป็นตัวเอง รู้ว่าความคิดของตนมีค่า และได้รับการรับฟังด้วยความเคารพ
สรุปได้ว่าเมื่อเรามองกันด้วย “ความเข้าใจ” มากกว่าสายตา “การตัดสิน” ความสัมพันธ์ในทีมจะค่อย ๆ เปลี่ยนจากความห่าง เป็นความใกล้ จากความต่าง เป็นพลังที่ผลักดันให้ทีมเติบโตแข็งแกร่งขึ้น เพราะความเข้าใจไม่เพียงทำให้เราทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น แต่มันยังสร้าง “บรรยากาศแห่งความไว้วางใจ” ที่ทำให้ทุกคนกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าทำผิดพลาด และกล้าเติบโตไปด้วยกัน
เมื่อเราเริ่มจากคำว่า “เข้าใจ” มากกว่า “ตัดสิน”
Share this Post:




